เราอาจจะสังเกตกันมาสักระยะหนึ่งแล้วว่าหลังๆมานี้ วงการมือถือนั้นไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปจากเดิมมากเหมือนเมื่อก่อน ที่การเปิดตัวในแต่ละครั้งมักทำให้เราตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ แต่ในปัจจุบันกลับเน้นไปที่การอัพเกรดมากกว่า ด้วยจำนวนกล้องที่เพิ่มขึ้น ขนาดหน้าจอ รวมไปถึงหน่วยความจำต่างๆ หรือพูดอีกนัยคือ "สมาร์ทโฟนกำลังถึงจุดอิ่มตัว"
ซึ่งนวัตกรรมล่าสุดที่เราได้เห็นและพอให้รู้สึกแปลกใหม่ได้บ้าง คือโทรศัพท์จอพับได้ที่ SAMSUNG ออกมาเป็นเจ้าแรก แต่ก็ไม่ทันได้วางจำหน่ายเพราะพบปัญหาหน้าจอในขณะพับซะก่อน แต่ที่ต้องรีบเปิดตัวออกมาทั้งที่ยังไม่พร้อม
ก็เพราะต้องการได้ชื่อว่าเปิดตัวเป็นเจ้าแรกนั่นเอง ซึ่ง DJ Koh หัวหน้าแผนกมือถือของซัมซุง ก็ออกมาพูดด้วยตัวเองว่าสมาร์ทโฟนนั้นถึงทางตันแล้ว และในอีก 5 ปี ต่อจากนี้คงไม่มีใครใช้สมาร์ทโฟนอีกต่อไป พร้อมบอกว่าในอนาคตทุกอย่างรอบตัวจะเปลี่ยนไปเป็นหน้าจอสัมผัสทั้งหมด แม้แต่หน้าจบพับได้อย่าง Galaxy Fold ที่พึ่งเปิดตัวก็จะคงอยู่แค่ 2 - 3 ปีเท่านั้น
ซึ่งการถึงทางตันของสมาร์ทโฟนนั้นก็เพื่อเปิดทางไปสู่อุปกรณ์อัจฉริยะในรูปแบบอื่นที่ไฮเทคและอำนวยความสะดวกให้เรามากยิ่งขึ้นกว่านี้ ซึ่งสิ่งที่น่าจับตามองคือ เครือข่าย 5G ที่กำลังจะมา และระบบเสมือนจริงอย่าง AR ที่มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างเรื่อยๆ
แม้แต่รายงานเทรนด์โลกประจำปีอย่าง เว็บบ์ ยังเคยกล่าวไว้เมื่อปี 2018 ว่า
"การเปลี่ยนจากสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์อัฉริยะอื่นๆ ที่สามารถสวมใส่ได้ เช่นแว่นตาที่บันทึกข้อมูลได้ หูฟังที่มีเซ็นเซอร์ไบโอเมตริกส์ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงการใช้งานไปอย่างสิ้นเชิง"
และในอนาคต Ai คงเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น ทุกอุปกรณ์ที่มีอยู่หรือจะถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ในอนาคต หากมี Ai เป็นส่วนประกอบ มันก็คงจะดีและทำให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้นไปอีก
ซึ่งที่ว่ามามันอาจยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แต่จะเกิดขึ้นทีละนิด จนเมื่อทุกอย่างสมบูรณ์เราก็อาจะลืมการดำเนินชีวิตแบบเดิมไปแล้ว เป็นเรื่องปกติที่ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนผ่าน แต่ที่แน่ๆ ต่อไปในอนาคต สมาร์ทโฟนอาจจะไม่ใช่อุปกรณ์ที่ทันสมัยอีกต่อ เมื่อเรามองย้อนกลับมามันคงให้ความรู้สึกเหมือนเพจเจอร์หรือตลับเทปที่เคยเป็นนิยมและดูนำเทคโนโลยีที่สุดในยุดรุ่งเรืองของมันเช่นกัน
Comments