ดูสินค้าเพิ่มเติมของ Fujifilm ได้ที่
Shopee : https://shp.ee/bddvijm
Lazada : https://1th.me/txDOi
ถ้าใครติดตามค่ายกล้องยักษ์ใหญ่อย่าง Fuji ก็คงจะพอรู้มาบ้าง ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยปล่อย Fuji X-pro2 กล้องหน้าตาดีที่ไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์ออกมาแล้ว และครั้งนี้ Fuji กลับมาอีกครั้งพร้อมเปิดตัวกล้อง Fuji X-pro3 ซีรีย์สานต่อความดีงามแต่มาด้วยระบบที่ครบกว่า
สิ่งที่เราจะพูดถึงเป็นอันดับแรกเลยคือ รูปลักษณ์หน้าตาที่สวยงาม คงความคลาสิคในสไตล์ Rangefinder ตัวกล้องมีน้ำหนักแค่ 497 กรับ เบากว่ารุ่นก่อน แถมมีขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก เคลือบผิวแบบ Duratect เพื่อให้กล้องมีความคงทนมากขึ้น และยังช่วยให้พื้นผิวของบอดี้กล้องดูสวยงาม
จุดเด่นของกล้องคือช่องมองภาพ Rangefinder แบบ อิเล็กทรอนิกส์ หรือ EVF และ ช่องมองภาพแบบออพติคอล หรือ OVF ด้านหลังที่ดีไซน์ให้คล้ายกล้องฟิล์ม โดยมีช่องแสดงผลขนาด 1.28 นิ้ว ที่จะแสดงผลว่าเรากำลังใช้ฟิล์มอะไรอยู่ ให้อารมณ์ไม่ต่างอะไรเหมือนกับกล้องฟิล์มสมัยก่อนที่จะมีช่องให้มองกลักฟิล์ม โดยในโหมดการจำลองสีฟิล์มนี้ เขาก็มีฟิล์มให้เลือกใช้มากถึง 11 แบบเลย แถมยังมี Film รุ่นหายากอยู่ด้วย
แถมยังมีจอ LCD ด้านในขนาด 3 นิ้วแบบสัมผัส ความละเอียด 1.62 ล้านพิกเซล ซ่อนอยู่ สามารถพับได้ 180 องศา ถ้าจะดูภาพต้องพับลงมา เพื่อเน้นให้ผู้ที่ใช้กล้องได้ฟีลลิ่งการถ่ายผ่านช่องมองภาพมากกว่าการดูผ่านจอ LCD เหมือนกล้องดิจิตอลทั่วไป
ส่วนสเปคด้านในนั้น ใช้ตัวอิมเมจเซ็นเซอร์ X-Trans CMOS 4 ความละเอียด 26 ล้านพิกเซล ใช้โปรเซสเซอร์ X-Processoe 4 มีช่องใส่ SD Card 2 ช่อง จุดโฟกัส 425 จุด เป็นการโฟกัสแบบ Phase Detect และ Contrast Detect ช่องพร้อมกับการพัฒนาอัลกอริธึมใหม่ที่ทำให้สามารถโฟกัสในที่แสงน้อยถึง -6EV เพิ่มฟังก์ชั่น AF Range Limiter ช่วยกำหนดระยะการหาโฟกัสของเลนส์ได้อย่างอิสระ และการถ่ายภาพ HDR ประสิทธิภาพสูง ถ่ายภาพซ้อน Exposer ได้ถึง 9 ภาพ
คุณภาพของไฟล์ภาพก็ทำออกมาได้ดีมากๆ ไม่ได้แตกต่างจากดิจิตอลในปัจจุบัน มีไฟล์พื้นฐานให้เลือกครบทุกอย่างตามมาตราฐาน Fuji เลย โดยมีทั้งโหมดแมคคานิคชัตเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ชัตเตอร์ จะใช้ร่วมกันทั้ง 2 โหมดก็ทำได้ ถ่าย VDO ได้ถึง 4K 30P และยังมีช่องเสียบไมโครโฟนแบบปกติ และหากใครอยากสัมผัสความวินเทจที่มากขึ้น ก็สามารถนำเลนส์ Manual ของเรามาใช้โดยการตั้งค่าง่ายๆ ในกล้องได้อีกด้วย
หลังจากถ่ายภาพออกมาแล้วก็จะเห็นได้ว่า โทนสีของภาพนั้นทำออกมาได้ดีมาก เป็นภาพฟิล์มดิจิตอลที่เนียนใช้ได้เลย เหมือนเราถ่ายภาพฟิล์มแต่ได้ไฟล์ภาพที่คมชัด เป็นการหยิบยกข้อดีของกล้องสองแบบมาผสานกันอย่างลงตัว ถือว่าเหมาะกับสายวินเทจหรือคนที่ชอบถ่ายภาพแนวสตรีท ถ่ายภาพนิ่ง อยากถ่ายกล้องที่ได้โทนฟิล์มแต่งบไม่ถึง Leica หรืออยากได้ดิจิตอลแต่ชอบกล้องฟิล์ม กล้องตัวนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์มากๆ เลยครับ
ส่วนราคาวางจำหน่ายที่แน่นอนนั้นจะปล่อยออกมาเต็มๆ ที่ งาน Photo Fair 2019 ที่จะขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ที่ไบเทคบางนา หากใครอยากสัมผัสตัวจริงของกล้องรุ่นนี้ ก็สามารถเข้าไปลองเล่นใด้ในงาน ที่บูธ Fuji มีข่าวแว่วๆ มาว่า ราคาของ Fujifilm X-Pro3 นั้นจะแตกต่างกันตามสีครับ ซึ่งถ้าอิงราคาจากต่างประเทศจะได้ดังนี้ครับ
- Black Standard ราคา 1,799.95 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 54,400 บาท
- สีดำ DR Black และ สีเงิน DR Silver ราคา 1,999.95 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 60,400 บาท
หากใครอยากดูข้อมูลของกล้อง Fuji X-pro3 อย่างละเอียด ก็สามารถเข้าไปดูในคลิปนี้ได้เลยนะครับ
ถ้าดูแล้วถูกใจอย่าลืมกดติดตามช่อง Hyper Pixe ไว้ แล้วคุณจะไม่พลาดข่าวสารดีๆ
#Fuji #FujiXpro3 #Xpro3 #กล้อง
Comentarios